บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6
วัน พุธ ที่ 21 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
นำเสนอคำคมสำหรับผู้บริหารหรือผู้นำ
1. นางสาว จีรวรรณ งามขำ
2. นางสาวมาลินี ทวีพงศ์
3. นางสาวจิรญา พัวโสภิต
นำเสนอคำศัพท์คุณลักษณะของผู้นำที่ดี
1. นางสาว วรัญญา ศรีดาวฤกษ์
2. นางสาว ประภาภรณ์ สายเนตร
3. นางสาว ศิริวรรณ สุวรรณสาร
4. นางสาว วิไลวรรณ สุขทวี
5. นางสาวนันทนาภรณ์ คำอ่อน
6. นางสาว ภัทรธร ญาติสังกัด
7. นางสาว นิตยา นนทคำจันทร์
8. นางสาว อรณัฐ สร้างสกุล
9. นางสาว ปรียา นักทำนา
10. นางสาว ธณภรณ์ บุญใสยัง
12. นางสาว มาลินี ทวีพงศ์
13. นางสาว ณัฐณิชา ศรีบุตรตา
14. นางสาว จีรวรรณ งามขำ
15. นางสาว ศิริพร ขมิ้นแก้ว
16. นางสาว วิจิตรา เสริมกลิ่น
17. นางสาว สาวิตรี จันทร์สิงห์
18. นางสาว อันทิรา จำปาเกตุ
เนื้อหา
โครงสร้างขององค์กรและการจัดระบบบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
มีลักษณะการบริหารเฉพาะตัว โดยที่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1. นโยบาย และยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาล
2. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
3. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
4. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
5. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
6. ปรัชญา นโยบายและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
7. ความต้องการของชุมชน
การจัดประเภท
และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย
1. การจัดแบ่งตามโครงสร้างการบริหารตามขนาด แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ
1. การจัดแบ่งตามโครงสร้างการบริหารตามขนาด แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ
1) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดเล็ก
2) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดกลาง
3) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดใหญ่
2.
การแบ่งตามรูปแบบตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ
(พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 )พ.ศ. 2545 กล่าวไว้ใน มาตรา 15กำหนดการจัดการศึกษา
มี 3 รูปแบบ คือ)
1.รูปแบบในระบบโรงเรียน
2.รูปแบบนอกระบบโรงเรียน
3.รูปแบบตามอัธยาศัย
3.
รูปแบบการให้บริการแบบใหม่
คือ การรวมเด็กที่ผิดปกติและเด็กปกติไว้ด้วยกัน
โดยเรียกแบบนี้ว่า “Normalization”
หลักในการบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1.
การบริหารงานวิชาการ
เป็นการบริหารกิจกรรมทุกชนิดในโรงเรียน
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงพัฒนาการสอนผู้เรียนให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพที่สุด
2.
การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาปฐมวัย
คือ การปฏิบัติการใช้คนให้ทำงาน
อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีขบวนการต่าง ๆ
3.
การบริหารงานธุรการและการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
- งานธุรการในสถานศึกษา
- งานการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
- งานสารบรรณในสถานศึกษาปฐมวัย
- งานทะเบียนและรายงาน
- งานรักษาความปลอดภัย
- งานการเงินและพัสดุ
- งานพัสดุ
4. การบริหารงานกิจการนักเรียนในสถานศึกษาปฐมวัย
คือ การดำเนินงาน
เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในโรงเรียนโดยนักเรียนสมัครใจร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง
5.
การบริหารสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาปฐมวัย
- การบริหารสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
- การบริหารสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมและประสบการณ์
การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในยุคปฏิรูป
ความหมาย
การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)
คือ การบริหารโดยกระจายอำนาจทางการศึกษาไปยังสถานศึกษาโดยตรงให้มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากที่สุด
หลักการในการบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)
• หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
• หลักการมีส่วนร่วม (Participation or Collaboration Involvement)
• หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน
( Return Power to People)
• หลักการบริหารตนเอง (Self - managing)
• หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance)
รูปแบบโรงเรียนที่ใช้การบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน
•
ผู้บริหารโรงเรียนเป็นหลัก (Administrative Control School Council )
•
บริหารโดยครูเป็นหลัก (Professional Control Council)
•
การบริหารจัดการโดยชุมชนมีบทบาท (Community Control School Council)
•
ครูและชุมชนมีบทบาทหลัก (Professional Community Control School Council)
สรุปการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
( School-Based Management )
การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management) เป็นการถ่ายโอนอำนาจจากหน่วยงานไปให้แก่โรงเรียนได้บริหารแบบเบ็ดเสร็จที่โรงเรียนโดยมอบอำนาจการบริหารและจัดการศึกษาให้แก่ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งประกอบด้วยผู้ปกครอง
องค์กรแห่งการเรียนรู้
ศาสตร์ทั้ง
5 ขององค์กรแห่งการเรียนรู้ (ปีเตอร์ เอ็ม.
เซงเก (Peter M. Senge) )
-
การใฝ่ใจพัฒนาตน (Personal
Mastery)
-
รูปแบบของความคิด (Mental Models)
-
วิสัยทัศน์ร่วม (Shared
Vision)
-
การเรียนรู้เป็นทีม (Team Learning)
-
การคิดเชิงระบบ (System
Thinking)
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
สาระสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
-
การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
-
การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดการยอมรับในเป้าหมาย
-
การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดความสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบ
ผลดีของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
-
สร้างสรรค์ให้มีการระดมกำลังจากบุคคลต่าง
ๆ
-
สร้างบรรยากาศและพัฒนาประชาธิปไตยในการทำงาน
-
ช่วยให้ลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงาน
-
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
-
ผลงานที่เกิดขึ้น
-
สร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ
ข้อจำกัดของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
-
การแสดงความคิดเห็นเกิดข้อขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร
-
ก่อให้เกิดกลุ่มอิทธิพล
-
ผู้บริหารกลัวสูญเสียอำนาจ
-
การบริหารงานไม่สามารถใช้กับงานที่เร่งด่วนได้
-
ใช้งบประมาณมาก
-
ความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
-
การไม่เข้าใจหน้าที่มักจะทำให้เกิดการก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกัน
การวิเคราะห์เชิงปฏิบัติ (SWOT Analysis Workshop)
SWOT คืออะไร
v คือการวิเคราะห์สำรวจตรวจสอบสภาพภายในองค์กร
และสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวางแผน
v S : จุดแข็ง
v W : จุดอ่อน
v O : โอกาส
v T : อุปสรรค
ü แต่สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องไม่มองข้ามไปคือ
เรากำลังจะเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ ที่อาจจะทำให้บางคนไม่พอใจจากการสำรวจ
ü จุดอ่อน:W-จุดแข็ง:Sภายในองค์กร
และ
ü โอกาส:O-อุปสรรค:Tภายนอก
SWOT
ให้คำตอบอะไรกับเรา
1. อะไรคือเรื่องหลักที่เราต้องเผชิญในวันนี้
2. เราจะจัดการกับเรื่องหลักนี้อย่างไร
ข้อสังเกต
v บางคนใช้ SWOT เพื่อตั้งคำถามอย่างเดียว
v บางคนใช้เหตุผลของ SWOT มองข้ามปัญหาไป
เรามาทำความคุ้นเคยกับ SWOT ด้วยกัน
Ø ถ้าคุณมีภารกิจ ที่จะต้องให้บริการที่มีภาพต่อชุมชน
ตรงต่อเวลา ข้อมูลน่าเชื่อถือ และมีภาพพจน์ที่ดี
Ø มีการกำหนดหน้าที่ และภารกิจให้กับทีมงานทุกคน
Ø ภารกิจบรรลุเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชน
ในการเพิ่มมูลค่า(Value
Creativity) และคุณค่าความเป็นอยู่ในชุมชนดีขึ้น
เรามีวิธีคิด วิธีทำอย่างไร?
จุดแข็ง : Strengths
ตัวอย่าง
v งานที่เราถนัด
ทำแล้วมีความสุข
v งานที่โดดเด่นที่ชุมชนชื่นชอบ
v อะไรที่ชุมชนมีความต้องการให้เราทำซ้ำอีก
v ทรัพยากร
และเครื่องมือที่เรามีความพร้อม
จุดอ่อน : Weaknesses
ตัวอย่าง
v งานที่เราไม่สบายใจที่จะทำ
v ความต้องการที่จะรับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน
หรือทักษะบางอย่างที่เรายังไม่มั่นใจ
v ขาดทรัพยากรในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
หมายเหตุ
1.
บางทีจุดอ่อนของเรามีความเชื่อมโยงกับจุดแข็ง
2.
ยกตัวอย่าง....
นายแดงดี สีใส อ่านหนังสือไม่ออก
แต่มีความชำนาญในการสาธิตการกรีดยางพารา
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการวิเคราะห์ประเมินภายในองค์กรสมบูรณ์ครบถ้วน
ด้วยการมองสภาพแวดล้อมภายนอก
แล้วพิจารณาว่า องค์กรของเรามีโอกาสประสบความสำเร็จจากแผนโครงการพัฒนา
ด้วยวิธีการทำงานใหม่นี้หรือไม่
อุปสรรค : Threats
ตัวอย่าง
v ใครคือคู่แข่งขันที่ทำได้ดีกว่าเรา
v ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนจะทำให้แผนโครงการเรามีปัญหา
v ความขัดข้องที่จะเกิดจากเราเอง
หมายเหตุ
v การมองถึงอุปสรรค T
ไม่ใช่ความคิดที่ไม่มีข้อพิสูจน์
v ใช่ว่าเรามองจะโลกในแง่ร้าย มากกว่าโอกาส
เพราะว่าเราต้องใช้สรรพกำลังที่มีทำให้งานประสมความสำเร็จ
โดยอาศัยปัจจัยด้านอื่นๆอีกสามด้าน คือ SWO
โอกาส : Opportunities
ตัวอย่าง
Ø โอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น
ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
Ø มีเครื่องมือใหม่ที่ได้รับการสนับสนุน
Ø มีช่องว่างทางการตลาดที่เรามองเห็น
Ø เครือข่ายมีศักยภาพทำให้งานสำเร็จง่ายขึ้น
หมายเหตุ
Ø โอกาสควรที่จะพิจารณาทั้งในระดับมหภาค(ระดับประเทศ
ระหว่างประเทศ) และระดับจุลภาค(ระดับครัวเรียน/ระดับหมู่บ้าน/ระดับตำบล)
การสร้างแผนปฏิบัติ
•
ขั้นต่อไปเราจะทำอย่างไร
•
จุดแข็งของทุนเรามีอะไรบ้าง
•
จะป้องกันหรือลดจุดอ่อนอย่างไร
•
สร้างความได้เปรียบจากโอกาสอย่างไร
•
ระวังอุปสรรคอย่างไร
v
ตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ไว้ในแผนอื่นๆที่ทำได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น