วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 8



วัน พุธ ที่ 7 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2561

นำเสนอคำคมสำหรับผู้บริหารหรือผู้นำ
1. นางสาว วิไลวรรณ  ทวีสุข


2. นางสาว ประภาพร  พรมชุลี


3. นางสาว นันทนาภรณ์  คำอ่อน


นำเสนอวิจัยเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษา

กลุ่มที่ 1  งานวิจัย เรื่องรูปแบบการพัฒนาระบบการบริหารคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษา สู่ความเป็นเลิศระดับสากล
ผู้วิจัย : อุดม   ชูลีวรรณ   
ปีการศึกษา : 2559
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
 ประเด็นที่ 1. ระบบการศึกษาในฐานะที่เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคนของชาติให้มีคุณภาพตามที่สังคมปรารถนาโดยจะต้อง เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม คุณลักษณะของบุคคลให้อดคล้องกับ ทิศทางการพัฒนาประเทศ เพื่อเป็น พลังในการขับ เคลื่อนพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยประเทศได้
ประเด็นที่ 2. การศึกษาทุกระบบมุ่งเน้นที่จะให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
ประเด็นที่ 3. เพื่อจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ ประเทศไทยได้มีการปฏิรูปการศึกษามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ.2542 ทั้งปรับโครงสร้างการบริหาร การพัฒนายกระดับคุณภาพครู หลักสูตร การเรียนการสอน
ประเด็นที่ 4. การกำหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์ ของคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษา
ประเด็นที่ 5. การส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อพัฒนาสู่คุณภาพระดับสากล โดยเริ่มต้นจากโครงการ โรงเรียนมาตรฐานสากล
 ประเด็นที่ 6. การบริหารจัดการโรงเรียนด้วยระบบคุณภาพที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบที่จะพัฒนาองค์กรให้ มีผลดำเนินการที่เป็นเลิศ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อศึกษาองค์ประกอบของการบริหารคุณภาพโรงเรียนมัธยมสู่ความเป็นเลิศระดับสากล
2.เพื่อนำเสนอรูปแบบการพัฒนาระบบการบริหารคุณภาพโรงเรียนมัธยมสู่ความเป็นเลิศระดับสากล
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
         ความรู้ที่ได้จากวิจัยครั้งนี้คือ การบริหารสถานศึกษาในโรงต่างๆ จะเห็นได้ว่าการบริหารและการจัดการเป็นกลไกในการขับเคลื่อนให้เกิดการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายคือด้านผลลัพธ์แต่จะบริหารและจัดการอย่างไรจึงจะเกิดประสิทธิภาพนั้นผู้ริหารสำคัญที่สุดเพราะผู้บริหารเป็นผู้กำหนดทิศทางการทำงาน ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิภาพทั้งหลายล้วนเป็นผู้นำทางวิชาการ มีความคิดริเริ่ม มีวิสัยทัศน์ มีความรอบรู้ มีความสามารถในการจัดโครงสร้างและจัดบุคลากรให้เหมาะกับศักยภาพ ส่งเสริมให้มีการจัดหลักสูตรที่เหมาะสมกับผู้เรียนและท้องถิ่น ส่งเสริมพัฒนานวัตกรรม พัฒนาบุคลากร พัฒนา ผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์รอบด้านทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา สิ่งสำคัญอีก

กลุ่มที่ 2 งานวิจัย เรื่อง การบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารตามทัศนะของครูในโรงเรียนเครือข่ายที่49    สำนักงานเขตคลองสามวา สังกัดกรุงเทพมหานคร
 ผู้วิจัย : นางสาวจิรัญญา ขัดธิพงษ์ 
ปีการศึกษา : 2558
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
          ประเด็นที่ 1 ศึกษาการบริหารวิชาการ
          ประเด็นที่ 2 ศึกษาบริหารงบประมาณ
          ประเด็นที่ 3 ศึกษาการบริหารงานบุคคลการบริหารทั่วไป
          ประเด็นที่ 4 ศึกษาการบริหารทั่วไป
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อศึกษาการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารตามทัศนะของครู ในโรงเรียนเครือข่ายที่ 49 สำนักงานเขตคลองสามวา สังกัดกรุงเทพมหานครในขอบข่ายภารกิจ 4 ด้าน ได้แก่ การบริหารวิชาการการ บริหารงบประมาณ การบริหารงานบุคคลและการบริหารทั่วไป
2.เพื่อเปรียบเทียบการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารตามทัศนะของครูในโรงเรียนเครือข่ายที่49 สำนักงานเขตคลองสามวา สังกัดกรุงเทพมหานครจำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการสอน
ข้อเสนอแนะ
1.ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับขอบข่ายการบริหารสถานศึกษาทั้ง 4 ด้าน โดยการศึกษาอย่างเชิงลึกในแต่ละด้าน
2.ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับวิจัยเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาที่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลของโรงเรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
3.ขอบเขตประสิทธิผลของโรงเรียน ที่เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
        จากการศึกษาวิจัยเรื่องการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารตามทัศนะของครูในโรงเรียน เครือข่ายที่ 49 สำนักงานเขตคลองสามวา สังกัดกรุงเทพมหานคร ได้ความรู้จากการศึกษาวิจัย ดังนี้ ได้เห็นแนวคิด ทฤษฎี หลักการต่างๆ ของการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา การบริหารงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไป สำหรับการบริหารงานวิชาการมีการจัดตั้งและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้ครูและนักเรียนใช้ทั้งในและนอกโรงเรียน ทางด้านการบริหารงบประมาณ มีการดำเนินการจัดทำบัญชีการเงินถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ มีการจัดทำทะเบียนคุมทรัพย์สินและบัญชีวัสดุ ควบคุมบำรุงรักษาพัสดุและมีการตรวจสอบพัสดุประจำปี และด้านการบริหารงานบุคคลมีการส่งเสริมและให้การสนับสนุนการประเมินวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีการส่งเสริมสร้างขวัญ และกำลังใจโดยการยกย่องเชิดชูเกียรติผู้มีผลงานดีและมีคุณงามความดีและ เสริมสร้างและพัฒนาวินัย คุณธรรมและจริยธรรมสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 

กลุ่มที่ 3 งานวิจัย เรื่องรูปแบบการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏบัณฑิตวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร
 ผู้วิจัย : นางนาริสานันท์  เดชสุระ 
ปีการศึกษา :  2552
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1  การจัดการศึกษาภาคบังคับเป็นการจัดการศึกษาที่เริ่มตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย  ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่ไม่ได้คลอบคลุมการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย เป็นเพียงการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่นักการศึกษาและนักจิตวิทยามีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันว่าเด็กวัยแรกเกิดจนถึง 6 ปีเป็นวัยที่สำคัญต่อการวางรากฐานบุคลิกภาพและการพัฒนาศักยภาพทางสมอง การจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยจึงมีความสำคัญต่อการส่งเสริมพัฒนาเด็กในทุกๆด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ -จิตใจ สังคมและสติปัญญา เป็นการส่งเสริมความพร้อมในการที่จะเรียนรู้ในระดับต่อไป ซึ่ง สถานศึกษาแต่ละแห่งมีรูปแบบการบริหารและการดำเนินงานที่มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันแต่มีจุดร่วมเดียวกันเพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กให้มีคุณภาพเพื่อส่งผลต่อการพัฒนาสังคมและประเทศด้วย
ประเด็นที่ 2  การจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยนับว่ามีความสำคัญเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นการวางรากฐานคุณภาพชีวิต การศึกษาให้แก่เยาวชนซึ่งโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยราชภัฏมีบทบาทในการดำเนินงานด้านการศึกษาปฐมวัย การดำเนินงานและการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล กล่าวคือต้องมีการบริหารงานที่มีรูปแบบหรือลักษณะชัดเจนถูกต้องเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
ประเด็นที่ 3  สาธิตปฐมวัยเป็นโรงเรียนที่จัดการศึกษาในระดับปฐมวัยคือการจัดการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 2 ปีครึ่ง - 5 ปี 11 เดือน โดยมีปรัชญาในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยเต็มศักยภาพสอดคล้องกับพัฒนาการทางด้านร่างกาย ด้านอารมณ์จิตใจ สังคมและสติปัญญา และเป็นไปโดยธรรมชาติภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เป็นอิสระ ภารกิจของการดำเนินงานโรงเรียนสาธิตปฐมวัย
 1.  พัฒนาเด็กปฐมวัยให้เต็มตามศักยภาพ ให้เป็นไปโดยธรรมชาติ
 2.  เป็นแหล่งฝึกประสบการณ์วิชาชีพให้แก่นักศึกษาโปรแกรมวิชาการศึกษาปฐมวัย
 3.  เป็นแหล่งการบริหารวิชาการ ค้นคว้าวิจัยและพัฒนาข้อมูลวิชาการทางด้านการศึกษาปฐมวัย โรงเรียนสาธิตมีภารกิจที่รับผิดชอบเช่นเดียวกันกับโรงเรียนอื่นๆ ได้แก่ งานวิชาการ งานบุคลากร งานกิจการนักเรียน
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
            จากสภาพความเป็นมาและปัญหาของการวิจัยดังที่ได้กล่าวข้างต้นผู้วิจัยกำหนดจุดประสงค์ของการวิจัยและกัน
1. เพื่อทราบองค์ประกอบการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
2. เพื่อนำเสนอรูปแบบการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
            การบริหารและหลักการบริหารการจัดการมีความสำคัญในการวางระบบการบริหารโรงเรียน โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานเป็นรูปแบบ และแนวคิดในการบริหารที่จะต้องกระจายอำนาจการบริหารทำให้สถานศึกษามีอำนาจและความรับผิดชอบในการบริหารมีความคล่องตัวและมีอิสระมากขึ้นในการตัดสินใจ การสร้างประสิทธิภาพของโรงเรียนควรเน้นการบริหารการจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานอย่างชัดเจน และเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้

กลุ่มที่ 4 งานวิจัยเรื่อง การบริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวงสังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต1
ผู้วิจัย  :  นางสาวยุกตะนันท์  หวานฉ่ำ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษา ระดับการบริหารสถานศึกษาของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต1
2. เพื่อศึกษาระดับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต1
3. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต1

กลุ่มที่ 5 งานวิจัยเรื่อง : ทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1
ผู้วิจัย : ศศิตา  เพลินจิต  ปีการศึกษา : 2558
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่1 : ปัญหาสำหรับผู้บริหารที่ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับยุค ของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ประเด็นที่2 : ผู้บริหารขาดทักษะที่จาเป็นสาหรับการบริหารในองค์กรและ หน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษา
ประเด็นที่3 : ผู้บริหารสถานศึกษาจึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ จะต้องมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่21เพื่อหน่วยงานให้มีมาตรฐานสูงขึ้น
ประเด็นที่4 : การพัฒนาทักษะของผู้บริหารในศตวรรษที่ 21 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะของผู้บริหาร
ประเด็นที่5 : ทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารสถานศึกษา
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อศึกษาทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1
2.เพื่อเปรียบเทียบทักษะการบริหารในศตวรรษที่21 ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม   เขต 1จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
1.ได้รับความรู้เรื่องทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 และได้รับความรู้ใหม่เกี่ยวกับทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการศึกษาในศตวรรษที่21เพิ่มมากขึ้น
2.ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ศึกษา  ค้นคว้า  และแก้ปัญหาจากการทำงานเพื่อแสดงศักยภาพที่มีอยู่ให้เห็นว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการทำวิจัย
3.ได้ฝึกทักษะกระบวนการทำงาน การแก้ไขปัญหา มีความรับผิดชอบและได้ฝึกการวางแผนการทำงานเพื่อนำความรู้ที่ได้จากการวิจัยไปปรับใช้ในการศึกษาต่อไป

กลุ่มที่ 6 งานวิจัย เรื่อง การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหาร  สถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดขอนแก่น
ผู้วิจัย    นัยนา เจริญผล
 ปีการศึกษา   2552
บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1 เป็นแนวทางสำคัญในการจัดระเบียบให้สังคมทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งครอบคลุมไปถึงฝ่ายวิชาการ ฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายราชการ และฝ่ายธุรกิจ
ประเด็นที่ 2 ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยังยืนและเป็นส่วนเสริมความเข้มแข็งหรือสร้างภูมิคุ้มกัน
ประเด็นที่ 3 การพัฒนาคนไทยให้มีคุณภาพต้องอาศัยการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้รับการสนับสนุนส่งเสริมด้วยระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษา การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา จังหวัดขอนแก่น
2. เพื่อเปรียบเทียบการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา จังหวัดขอนแก่น จำแนกตาม ประเภทการจัดการศึกษา และขนาดของสถานศึกษา
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิบัติ
      ครูแต่ละคนควรมีความจริงใจให้กับเพื่อนร่วมงานควรมีการประสานงานที่ดี และควรมีขวัญกำลังใจในการทำงาน ผู้บริหารจึงควรมีการสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูผู้สอน เช่น มีการมอบรางวัลสำหรับครูที่ปฏิบัติดีตามหลักคุณธรรม จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นระหว่างบุคลากรของโรงเรียน และมีการออกกฎระเบียบลงโทษครูที่ขาดความรับผิดชอบต่องานและต่อครูด้วยกัน สำหรับครูผู้สอนก็ควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนและมีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็นต่อส่วนรวมบ้างในบางโอกาส
2. ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป
      การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาทางเดียวกล่าวคือเป็นงานวิจัยที่ศึกษาเฉพาะผู้ ปฏิบัติงานได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนเท่านั้น ดังนั้นในการวิจัยครั้งต่อไปจึงควรศึกษาถึงความคิดเห็นของผู้ได้รับบริการ หรือผู้ใช้บริการอื่น ๆ ของโรงเรียนด้วย ซึ่งได้แก่นักเรียน ผู้ปกครองของนักเรียน สมาคมนักเรียนเก่า หรือชุมชนบริเวณโรงเรียน เพื่อจะได้นำความคิดเห็นดังกล่าวมาพิจารณาร่วมกับความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการบริหารงานของโรงเรียนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป
สะท้อนองค์ความรู้ที่ได้จากวิจัย
     จากผลการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาพบว่า สถานศึกษาในแต่ละพื้นที่ต้องการผู้บริหารที่มีคุณภาพ การเป็นผู้บริหารที่ดีนั้นควรมีหลักในการยึดถือปฏิบัติ ได้แก่ หลักด้านนิติธรรม ด้านคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ หลักแห่งความคุ้มค่า ซึ่งคุณธรรมเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นผู้บริหาร วิธีเทคนิคการบริหารวิธีนี้จะช่วยให้การบริหารเกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด องค์กรมีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามมาด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น